คิดโครงงานเด็กเล็ก

คิดโครงการเด็กเล็ก

บทนำ
โครงงานคืออะไร
   โครงงาน หมายถึง กระบวนการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ใช้ทักษะที่หลากหลายในการศึกษา   ค้นคว้าเรื่องราว หรือข้อความรู้ที่ผู้เรียนสนใจ อยากรู้ เกิดปัญหาสงสัยและต้องการคำตอบมาอธิบาย อาจจะสังเกต สำรวจทดลองหรือคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ ขึ้นมา ทั้งนี้ กระบวนการเรียนรู้จะต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนจะมีบทบาทตั้งแต่การกำหนดหัวข้อทำโครงงาน การวางแผนขั้นตอนและวิธีการทำงาน การแบ่งหน้าที่กันโดย  เน้นความร่วมมือร่วมใจมากกว่าการแข่งขัน และสามารถ จัดเป็นกิจกรรมเดี่ยว กิจกรรมคู่ หรือ กิจกรรมกลุ่มก็ได้ การกำหนดตารางการทำงาน  การกำหนดชิ้นงานหรือผลสำเร็จของงาน ไปจนถึงการตรวจสอบผลงานและการนำสนอโครงงาน บทบาทของครูคือกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจและเกิดการเรียนรู้ จึงควรจัดกิจกรรมนำสู่โครงงาน และคอยให้คำปรึกษาอำนวยความสะดวก
ลักษณะสำคัญของโครงงาน
๑.      เป็นเรื่องที่ผู้เรียนสนใจ  เป็นปัญหาข้อสงสัยหรือเป้นเรื่องใหม่ และต้องการคำตอบ
๒.    เป็นการเรียนรู้ที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบตามลำดับขั้นตอน
๓.     เป็นการบรูณาการการเรียนรู้ทีใช้ทักษะหลากหลายซึ่งจะเป็นพื้นฐานของทักษะชีวิต
๔.     เป็นการศึกษาข้อมูลรอบด้าน หลากหลายและลึกซึ้ง
๕.     เป็นการแสวงหาองค์ความรู้ด้วยตนเอง
๖.      เป็นกระบวนการที่เรียนมีบบาทสำคัญ ครูทำหน้าที่คอยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกดการเรียนรู้
โครงงานเด็กเล็ก
   ในการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานสำหรับเด็กเล็กนั้น เนื่องจากเด็กยังไม่สามารถอ่าน เขียนหรือคิดเลขได้อย่างคล่องแคล่ว  การจัดประสบการณ์การเรียนรู้จึงต้องได้รับการวางแผนและออกแบบให้เหมาะสมกับการพัฒนาของเด็ก  การเร่งพัฒนาการเด็กให้เร็วเกินกว่าธรรมชาติ หรือการกำหนดให้เด็กทำโครงงานที่ซับซ้อนและยากเกินไป นอกจากจะไม่เกิดประสิทธิผลแล้วอาจจะเป็นการกดดันให้เด็กเครียดและคับข้องใจ  และไม่สนใจในกิจกรรมการเรียนรู้นั้น

         ธรรมชาติของเด็กเล็กจะมีการพัฒนที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องจากง่ายไปสู่ความซับซ้อนและเด็กแต่ละคนมีการพัฒนาต่างกัน การจัดประสบสบการณ์การเรียนรู้เป็นกระบวนการที่เด็กจะได้เรียนรู้และสะสมองค์ความรู้ไปเรื่อยๆ สิ่งแวดล้อมที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอยากเรียนรู้ สื่อและอุปกรณ์ก็จะมีส่วนเพิ่มความท้าท้ายให้เด็กเกิดทักษะการคิด จึงควรเริ่งจากการเล่นและการทำกิจกรรมง่ายๆมากกว่าการทำสิ่งที่คุณครูบอกหรือกำหนดให้  การเรียนรู้จากโครงการจึงสามารถตอบสนองการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของเด็กเล็กได้ดีเพราะจะได้ลงมือปฎิบัติ ได้สำรวจ ได้สัมผัส ได้ทดลอง ได้ประดิษฐ์ และได้คิดวางแผนแก้ปัญหา
ประเภทของโครงงาน
โครงงานแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท ได้แก่
1.             โครงงานสำรวจ เป็นโครงงานที่ศึกษาโดยการสำรวจและรวบรวมข้อมูลในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ภายใต้ประเด็นหัวข้อที่จะศึกษา แล้วนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงผลการศึกษา และการนำเสนอ โครงงานประเภทนี้ อาจจะนำเสนอในรูปแบบของตารางแผนภูมิ แผนผนังหรือกราฟ
2.             โครงงานศึกษา ค้นคว้า ทดลอง เป็นโครงงานที่ศึกษาและค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ผู้เรียนสนใจและต้องการรู้ราวรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง อาจจะพัฒนาจากโครงงานสำรวจแล้วต้องการศึกษาค้นคว้าหรือทดลองเพิ่มเติม
3.             โครงงานสิ่งประดิษฐ์   เป็นโครงงงานที่ประดิษฐ์สิ่งใหม่ โดยนำองค์ความรู้ที่มีอยู่เป็นพื้นฐานมาผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ที่ยังไม่มีใครเคยคิดหรือประดิษฐ์มาก่อน อาจจะได้มาจากการสำรวจศึกษาและค้นคว้าจากทฤษฎีที่มีมาก่อนหรือพัฒนาขึ้นจากสิ่งประดิษฐ์ที่มีมาก่อน
4.             โครงงานทฤษฎี เป็นครงงานที่สร้างทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่สนใจ หรือเป็นการขยายแนวคิดหรือพิสูจน์ทฤษฎีเดิมเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยทฤษฎีใหม่ที่เสนอนี้ผู้เสนอต้องมีความรู้ในทฤษฎีนั้นๆ อย่างลึกซึ้งและต้องผ่านการพิสูจน์ด้วยกฎเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป
  
การนำเสนอโครงงาน
    การนำเสนอโครงงาน สามารถแบ่งของการนำเสนอให้สอดคล้องตามแผนการจัดประสบการณ์แต่ล่ะ โครงงานได้ตามความเหมาะสม ตัวอย่างหนึ่งที่คุณครูสามารถนำไปประยุกต์ได้ดังต่อไปนี้
๑.      การนำเสนอผลงานช่วงกิจกรรมนำสู่โครงงาน เช่น ผลการทำแบบทดสอบ ผลงานการทำใบงาน การตอบคำถาม การเล่าเรื่อง การร้องเพลงหรือกิจกรรมเคลื่อนไหว เป็นต้น
๒.    การนำเสนอผลงานระหว่างการทำโครงงาน เช่น   
.๑  การนำเสนอข้อมูล เรื่องราวหรือภาพประกอบต่างๆในกลุ่มหรือในชั้นเพื่อรวบรวมและ ตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้น
.๒ การนำเสนอผลงานของสมาชิกกลุ่มตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายหรือแบ่งปันกันรับผิดชอบ  อาจเป็นข้อมูล ชิ้นงาน หรืออื่นๆ
.๓  การนำเสนอผลสำเร็จของโครงงานครบทั้งกระบวนการกับคุณครูที่ปรึกษาพร้อมรายงาน ซึ่งต้องมีหัวข้อต่อไปนี้
ชื่อเรื่อง…………………………………..
ชื่อผู้จัดทำ………………………………..
ครูที่ปรึกษา…………………………………
โรงเรียน……………………………………….
ที่มาและความสำคัญของการทำโครงงาน……………………………………
วัตถุประสงค์………………………………………….
สมมติฐาน(ถ้ามี)……………………………………
ขั้นตอนการดำเนินการ(หรือขั้นตอนการทดลอง)……………………………………..
สรุปผลงานการทำโครงงาน……………………………………….
ประโยชน์ที่ได้รับ…………………………………………..
ข้อเสนอแนะ(ถ้ามี)…………………………………………….
.๔ การนำเสนอโดยจัดแสดงโครงงานครบทั้งกระบวนการให้กลุ่มใหญ่หรือห้องเรียน พร้อมรายงาน ซึ่งอาจจัดเป็นองค์บอร์ดตกแต่งห้องเรียน หรือการจัดแสดงชิ้นงานพร้อมรายงาน เป็นต้น
ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เด็กคิดโครงงานได้ง่ายมีอะไรบ้าง?
เมื่อเด็กรู้ว่าโครงงานคืออะไรแล้ว ผู้ที่จะช่วยให้เด็กเกิดแรงบันดาลใจได้ดีนั้นคือ “ครู” ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญดังนี้
.กระตุ้น ให้เด็กสำรวจความสนใจของเพื่อนร่วมชั้นว่าสนใจอะไร อยากรู้เรื่องอะไร อยากแก้ปัญหาอะไร และมีความจำเป็นต้องการอะไรบ้าง
.  กระตุ้นให้เด้กคิดโครงงานได้จากการเล่านิทาน นำเสนอภาพ เหตุการณ์ ข้อมูลจากสื่อ สิ่งพิมพ์ต่างๆ หนังสือนิยายการ์ตูน เป็นต้น
. กระตุ้นให้เด็กคิดโครงงานได้จากการให้ฟังข่าวสารวิทยุ หรือนำวีดิทัศน์ มาให้ชมเช่น วีดิทัศน์การ์ตูน สารคดี ละคร รายการทีวี หรือภาพยนตร์ เป็นต้น
. กระตุ้นให้เด้กคิดโครงงานได้จากกิจวัตรประจำวัน ครอบครัว และงานอดิเรก ที่ชื่นชอบ กีฬา ท่องเที่ยว ทำอาหาร ประดิษฐ์ของใช้ หรือแม้แต่การเล่นเกมในอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
. กระตุ้นให้เด็กคิดโครงงานได้จากการพาไปทัศนศึกษายังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น สวนสัตว์ สถานที่สำคัญของท้องถิ่นหรือเพื่อนบ้าน และพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น
. กระตุ้นให้เด็กคิดโครงงานได้จากการพาไปร่วมประกวดโครงงานในระดับต่างๆ เช่น ระดับกลุ่มโรงเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ เช่นงานแสดงศิลปะหัตถกรรมสำหรับนักเรียน เป็นต้น
. กระตุ้นให้เด็กโดยจัดประกวดโครงงานภายในโรงเรียน
. กระตุ้นให้เด็กมีแหล่งที่จะจัดแสดงผลงาน เช่น มุมหรือห้องดครงงานสนุก หรือผลของน้องไว้ตอนรับครูหรือนักเรียนจากโรงเรียนอื่นที่มาเยี่ยมชมและดูงานโรงเรียน
. กระตุ้นให้เด็กเชื่อมโยงประสบการณ์เรียนรู้อื่นๆ ที่นักเรียนสนใจมาจัดทำโครงงาน
๑๐. กระตุ้นให้ผู้บริหารสถานศึกษาให้เห็นความสำคัญของการทำโครงงาน พร้อมทั้ง สนับสนุนให้แหล่งพัฒนาเรียนรู้และเทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลอ้างอิงมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการทำโครงงาน
   โครงานมีประโยชน์สำหรับเด็กคือ
.ได้สัมผัสสิ่งรอบตัวซึ่งจะทำให้เด็กได้สะสมข้อความรู้ไปเรื่อยๆ
. ได้มีส่วนในการเลือกและกำหนดวิธีการเรียนรู้ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงจุงใจให้เด็ก
.ได้มีโอกาสแสดงความสามารถที่แตกต่างกันมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ซึ่งโครงงานส่วนใหญ่มีงานที่ไม่ต้องใช้ความรู้ในเนื้อหาสาระนั้นๆรวมอยู่ด้วยเช่น ทักษะการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
. ได้มีโอกาสใช้ความรู้และทักษะที่บรูณาการกันตลอดทุกขั้นตอนขณะทำโครงงานทำให้เกิดบริบทที่เป็นธรรมชาติที่เด็กมีความจำป็นต้องใช้ความรู้และทักษะหลากหลายซึ่งเป็นหัวใจของการศึกษา
. ได้แสดงออกในแต่ละขั้นตอน จนก่อให้เกิดความมั่นใจในตนเอง เกิดความพึงพอใจในผลงานซึ่งจะเป็นการกะรตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ต่อไป
. ได้มีโอกาสสำรวจตนเองและความมั่นใจในการใช้ทักษะต่างๆที่ตนเองถนัด จนสามารถพัฒนาเป็นทักษะชีวิตต่อไปได้ดียิ่งขึ้น
. ได้เปิดโอกาสให้คุณครูและผู้ปกครองค้นพบความสามารถของเด็กได้เป็นอย่างดี และจะเป็นแนวทางที่ส่งเสริมศักยภาพต่างๆของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

                                                     คิดโครงการเด็กเล็ก
     ผู้เรียบเรียง            :      เบญญาภา โสภณ
บรรณาธิการที่ปรึกษา          :       รศ.ดร.ทิพย์ ประเสิฐสุข
บรรณาธิการเล่ม                   :    ผศ.ดร.กาญจนาพร  สุวรรณ
บรรณาธิการฝ่ายศิลป์     :        ฤกษ์ระพี  โสภณ
ผลิตและจำหน่ายและจัดพิมพ์โดย :    บริษัท เป็น ภาษาและศิลปะ จำกัด
                                                                                  (Ben  Languages & Arts Co.; Ltd)
พิมพ์ครั้งที่ 1 : .. 2553 จำนวน 3,000 เล่ม
พิมพ์ครั้งที่ 2 : .. 2554 จำนวน 2,000 เล่ม
พิมพ์ครั้งที่ 3 : .. 2554 จำนวน 2,000เล่ม
ราคา 175 บาท
                                           สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ..  2537
                               ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักงานของห้องสมุดแห่งชาติ
                                                                          เบญญาภา โสภณ
                                         คิดโครงงานเด็กเล็ก กรุงเทพฯ : เป็นภาษาและศิลปะ, 2554.86 หน้า

                         1.โครงงาน   2. การศึกษาขั้นอนุบาล 1. ชื่อเรื่อง
                       372.21
                        ISBN 987-616-7092-24-9

 ผู้จัดจำหน่าย : บริษัท เบ็นพับลิชซิง จำกัด
                                                                สำนักงาน   บริษัท เบ็นพับลิชซิง จำกัด
48/152 .รามคำแหง 104
เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทร./โทรสาร 0-2729 -8498
                   0-2729 -3349

 Website    : htt://www.support@benpublishing.net
กุลยา ตันติผลผลาชีวะ. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพมหานคร :
           บริษัทเอดิสันเพรสโปรดักจำกัด, 2547
ซารอน แมคโดนัลด์ .   การค้นพบเทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน            
            กรุงเทพมหานคร สุวีรียาสาส์น, 2546
เบญญาภา   โสภณ. คิดโครงงานภาษาอังกฤษ. กรุงเทพมหานคร:
                   บริษัทเป็นภาษาและศิลปะจำกัด, 2553
ประดิษฐ์  เหล่าเนตร์. คิดโครงงานวิทยาศาสตร์. กรุงเทพมหานคร:
                 บริษัทเป็นภาษาและศิลปะจำกัด, 2552
ประพันธ์ศิริ เดชคุปต์ และคณะ. การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ : แนวคิด วิธีและเทคนิคการสอน.
                   กรุงเทพมหานคร:สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พ..) , 2544.
อภิวรรณ วีรสมิทธ์. พับมหาสนุก. กรุงเทพมหานคร: บริษัทเป็นภาษาและศิลปะจำกัด, 2552

   Kell,Elizabeth. Art for the very your. USA : Instrucitional Fair TS Denison , 1997
Senior,Liz. Growing up with asmil. South Africa:
              Smile Enucation Systems (PTY) Ltd. , 1998.
   Wolf, Jean. Home Enucation Curriculum. UNA : Instrucitional Fair TS Denison, 1997.
     http://www. Crafts.basteln-gestalen.de/paper-house







                                    




                                                 

3 ความคิดเห็น: